หมอเหวง โตจิราการ และ นาย วีระ มุกสิกพงศ์ นั้นผมขอวิพากษ์ วิจารณ์แกนนำเสื้อแดง ดังนี้
ภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ แกนนำเสืิ้อแดง: หมดเหวง, วีระ และจตุพร หลังเจรจากับนายก
1. สิ่งที่แกนนำเสื้อแดงควรทำ ณ ขณะนี้มากที่สุด คือ ไปศึกษา เรื่องระบอบประชาธิปไตยโดยด่วน อย่าคิดว่า การเลือกตั้ง คือประชาธิปไตย หรือ ประชาธิปไตย คือการเลือกตั้ง แล้วจบ เพราะสิ่งที่เรียกร้อง จนถึงขณะเจรจาสดๆ คือ เมื่อรัฐบาลยุบสภา แล้วให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก็แก้ปัญหาการเมืองตามแนวคิดเสื้อแดงได้แล้ว เหมือนกดปุ่ม ด้วยทัศนคติเชิงลบ กระบวนทัศน์ที่คับแคบ และวิธีคิดที่ห่วยแตก
2. ไม่รับรู้ ไม่สนใจอะไร ทั้งนั้น ใครจะสัญจรได้ไม่ได้ ใครจะค้าขายได้ไม่ได้ ใครจะเป็นอันตรายหรือไม่ จากผลการประท้วง และผู้ประท้วงบางกลุ่มใช้ความรุนแรง แต่แกนนำปัดความรับผิด นอกจากผลประโยชน์ เฉพาะหน้าของกลุ่มก้อนตัวเอง เท่านั้น จึงรับชอบ มองดู ฟังดู ก็ทราบได้ไม่ยากว่า ในสันดานของคนเหล่านี้ เป็นเผด็จการอยู่มาก แต่หลอกล่อ โน้มน้าว จ้างวาน แก่มวลชน ให้ออกมาร่วมสร้างกระแส เหมือนอันธพาล นักเลงโต ใช้กำลังข่มขู่ คนอื่นให้ทำตาม ผิดวิสัยเสรีชนที่ดี การเมืองตามข้อเรียกร้องของแกนนำเสื้อสีแดง เสื้อสีเหลือง และของนักการเมืองเกือบทั้งสภา จึงเป็นเรื่องของผลประโยชน์เฉพาะหน้าของตัวเองเท่านั้น
3. แกนนำเสื้อแดงบอกว่า สภาแก้ปัญหาให้ไม่ได้ ก็ต้องออกมานอกถนน นี่ขนาด ส.ส. เอง นะ ถ้าอาศัยสภาแก้ปัญหา ไม่ได้ อย่างเราๆท่านๆ จะทำอย่างไร อันนี้เป็นปัญหาเชิงระบบ ที่โครงสร้างการบริหารจัดการ ที่เป็นแนวดิ่ง ไม่ใช่ ตามแนวขวาง ที่ง่ายต่อการประสาน ความร่วมมือ สื่อสาร เป็นเครือข่าย ข้ามไปมาได้ ระหว่างเครือข่ายได้ ดีกว่า เท่าเทียม มากกว่า
4. ในขณะเจรจากัน ทั้งสองฝ่ายพูดว่า ประเทศจะได้เดินไปได้ ถ้าเจรจากันได้ ตกลงกันได้ นัยะก็คือ แกนนำเสื้อแดง ยุแหย่ให้คนในชาติเกลียดกัน แตกแยก ร้าวลึก สร้างความบาดหมาง ไปทั่ว เคลื่อนไหว แกะกะ ระราน คุกคาม ข่มขู่ ไปทั่ว จน ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ หมายความว่า ชีวิต อนาคต เราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย จะต้องรอการ ลิขิต ชี้เป็นชี้ตาย จะต้องขึ้นอยู่กับ แกนนำเสื้อแดง ไม่กี่คนอย่างนั้นหรือ?? ระยำแท้ๆ
5. แกนนำเสื้อแดงดูร้อนรน เหลือคณา จะต้องให้ยุบสภา วันนี้ พรุ่งนี้ให้ได้ สุดท้ายยื่นคำขาดให้ นายก ยุบสภาภายใน 14 วัน ไม่รู้ มีวาระอะไรอยู่ หรือว่า ถ้ามีการเลือกตั้งทั่วไป จะมีเม็ดเงินก้อนโต จาก"นายทุน" เป็นค่าจ้าง ทำลายชาติ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเตรียม กฎ กติกา อะไรทั้งนั้น ทั้งความสามัคคีของคน ความคิดที่แตกแยก จนแทบจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ แค่คิดง่ายๆ เหมือนกดปุ่มก็หาย จริงๆ แกนนำก็ทราบว่าไม่หาย แต่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ในอนาคต ชองชาติ เพราะ ได้สม ประโยชน์ตัวเองแล้ว หากไม่สมประโยชน์ ก็จะออกมาเคลื่อนไหวใหม่ (ใครจะทำไม ??)
เมื่อระบบการเลือกตั้งทุกวันนี้ เป็นเหมือน ตะแกรงกรองน้ำไว้กิน น้ำที่ได้จึงไม่เหมาะที่จะดื่มกิน จึงต้องมีการปรับระบบการกรองน้ำเสียใหม่ให้ กรองน้ำไว้ดื่มกินได้จริงๆ โดยใช้ระบบการคัดกรองนักการเมือง ก็จะได้คนดีไปสร้างระบบที่ดีเพื่ออนาคตที่ดีของประชาชน ต่อๆไป
อันที่จริง ในต่างประเทศอย่างใน อเมริกาก็ค่อนข้างมีปัญหา มากๆ ในระบบการคัดเลือกคนทำงานทางการเมือง หรือ การเลือกตั้ง เพราะ กระแสทุนนิยมกักขฬะ รุนแรง แต่ก็มี สื่อกระแสหลัก ทั้งสื่อดั้งเดิม และสื่อใหม่ ส่วนใหญ่ต่างทำงานบนหลักคุณธรรมความดีงาม เมื่อเป็นเรื่องของส่วนรวม คนที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้ก็ดี ระบบก็ดี นโยบาบสาธารณะก็ดี กฎ กติกา ต่่างๆ ก็ดี ต้องเป็นไปเพื่อสนองคนส่วนใหญ่ (Neutrality of policy) เมื่อคนที่เขาเลือกให้ไปทำหน้าที่แทนในพื้นที่สาธารณะต่างๆ นั้นกำลังทำความเสียหาย หรือมีท่าทีทำความเสียหายต่อสังคมของเขา สื่อกระแสหลัก เขากระตือรือร้นค่อยกำกับพฤติกรรม ไม่ให้คนเหล่านี้ เบี่ยงเบนไปจากที่ควรจะเป็น ถึงขั้น รุมประณาม ปลุกกระแสประชาชน จนคนเหล่านั้นไม่มีพื้นที่ที่จะอยู่อีกต่อไป และ ได้รับโทษทัณฑ์ อย่างจริงจัง ที่แตกต่างกันระหว่างประเทศที่ด้อยพัฒนา อย่างไทยนั้น คือ สื่อกระแสหลัก ของไทย ขาดจุดยืนเรื่องหลักคุณธรรมความดีงาม โดยเฉพาะเรื่องส่วนรวม ที่คอยกำกับพฤติกรรม คนเหล่านั้นให้อยู่กับร่องกับรอย
เมื่อทั้งคน และระบบ หลุดหมด เกิดได้คนไม่ดี ไม่พร้อม เข้ามา ก็ยังมีสื่อกระแสหลัก นี่แหละ ค่อยจัดการเป็นด่านต่อไป แต่กรณีประเทศไทย หลุดหมด เดี้ยงหมด ปัญหาการเมืองไทยจึงตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ตลอดมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น