Powered By Blogger

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สื่อกระแสหลักต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนมากกว่านี้

ทำไม... ต้องเป็นสื่อกระแสหลัก(mainstream media)(ได้แก่ ทีวี วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ) ก็เพราะสื่อกระแสหลักสามารถเข้าถึงผู้คนจำนวนมากๆ หรือพูดให้ชัดก็คือ เป็นที่นิยมของผู้คนทั่วไป สื่อเหล่านี้จึงสามารถ ชี้นำผู้คนไปในทางที่ถูกก็ได้ ผิดก็ได้(โดยการเพิกเฉยต่อข่าวนั้นๆ หรือไม่ให้ความสำคัญมากเพียงพอ หรือ ร่วมด้วยเลย) สื่อกระแสหลักไทยมีสำนึกน้อยไป ถึงหลักคุณธรรมแห่งความดีงาม ที่สังคมต้องยึดถือ หรือผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน มาก่อนสิ่งอื่นใด

กองบรรณาธิการข่าวต้องคัดเลือก เนื้อหาข่าวที่จะกระทบแ่ก่ประชาชนในวงกว้าง ความไม่เป็นธรรมในสังคม ลงในพื้นที่ที่เด่นๆ และเกาะชิด ติดตาม ตอกย้ำ เนื้อหานั้นๆ จนกว่าประชาชน สังคมโดยรวมได้ตระหนัก ถึงความไม่ดีงาม ความไม่ถูกต้อง ของผู้กระทำที่เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี หรือ ทำให้สังคมโดยรวมเสียหาย เช่น การโกงกิน (ตามน้ำ ทวนน้ำ) การฮั้วประมูล นักการเมืองไร้จิตสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประชาชน ไม่เข้าประชุมสภา "เ่ล่นการเมือง" มากกว่า "ทำงานการเมือง" ซื้อเสียง ฯลฯ สื่อกระแสหลัก ต้องจุดกระแสให้คนเหล่านั้นได้รับผล โทษทัณฑ์ จากกฎหมายบ้านเมือง หรือ กระแสสังคม ลงโทษ เช่น คน ทุจริต โกงกิน ก็จะถูกชาวบ้านเกลียดชัง ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครต้อนรับ แต่ปัจจุบัน กลับกลายเป็นค่านิยม กลายเป็นคนเก่งที่โกงได้ รวยได้เพราะโกงกิน ค้าของผิดกฎหมาย คุมบ่อน เป็นคนมีหน้า มีตาในสังคม สังคมบิดเบี้ยวหมดสิ้นแล้ว

คุณสรยุทธ์ นักจัดรายการทางทีวี มักพูดเสมอๆ ว่า "ให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเอง" พูดแล้วเหมือนดูดี มีความรับผิดชอบ ให้เกียรติผู้ชมรายการ แต่แท้จริงแล้ว ไม่รับผิดชอบอะไรเลย โยนความรับผิดชอบไปให้ประชาชน คิดเอง ซึ่งแต่ละคนก็ทัศนคติต่างกันมากมาย โดยที่ตัวเองทำตัวเป็นกระบอกเสียง รายงานข่าวตามข่าวหนังสือพิมพ์ ฉบับต่างๆ คุณสรยุทธ์ก็เต้าข่าวไป อ่านข่าวไป มิได้กล้าหาญบอกกล่าว ตักเตือน นักการเมืองที่สร้างความเสียหายแก่บ้านเมือง ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ได้นำหลักคุณธรรม ความดีงาม มาเทียบเคียงให้เห็น ถนัดแต่ให้คู่กรณีออกมาแก้ตัว สร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง สร้างภาพ สร้างความสับสนมากกว่า สังคมไทยยังไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากพอ ความแตกต่าง เหลื่อมล้ำกันในสังคมยังมีอยู่มาก

ถ้าผมนำยา 10 ชนิด ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรบ้าง (อาจมียาพิษอยู่ด้วย) แล้วให้คุณสรยุทธ์รับประทานแก้ปวดหัว แล้วบอกว่า คุณสรยุทธ์ "ใช้วิจารณญาณ" เอาเองนะ ถามว่า คุณสรยุทธ์ จะสับสนหรือไม่? จะกล้ารับประทานยา หรือไม่ ? ทำนองเดียวกัน กับข่าวสารต่างๆ เพราะ มันไม่มีมาตรฐาน ข่าวสาร มีทั้ง ข่าวลวง ข่าวหลอก ข่าวลือ ข้อเท็จจริง ความซับซ้อนของข่าว ต้นตอแหล่งข่าว เจตนาของผู้ให้ข่าว และที่สำคัญ ข่าวสารมีมากมายเหลือเกิน คนทำหน้าที่คัดเลือกเนื้อหาข่าว ที่จะนำเสนอ ต่อประชาชน ต้องสังเคราะหฺ์ฺ เป็น สังเคราะห์ข่าวเก่ง จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือ หรือถูกหลอกใช้ (หรือ สมยอมกัน สมคบกัน บิดเบือนโดยปล่อยให้คนทำผิดได้แถลงข่าว พูดออกสื่อ สร้างภาพ อย่างอิสระ ) สื่อที่ดี ต้องถามตัวเองเสมอๆ ว่า ชิ้นข่าวนั้นๆ สังคมโดยรวมได้อะไร หลักคุณธรรมความดีงาม อยู่ตรงไหน

กรณีคุณ นาธาน โอมาน นักร้อง นักแสดง โดนสื่อกระแสหลัก "ยำใหญ๋" จนแทบแทรกแผ่นดินหนี ถ้า สื่อกระแสหลัก มีสำนึกรับผิดชอบ ทำงาน เกาะชิด ติดข่าว ขุด คุ้ย ข่าว เหมือนกระทำกับคุณ นาธาน โอมาน แต่เป็นนักการเมือง ข้าราชการ คณะกรรมการองค์กรอิสระ หรือใครก็ตามที่มีหน้าที่รับผิดชอบกับนโยบายสาธารณะ ที่มีแนวโน้ม ท่าที หรือ ทำให้บ้านเมืองเสียหาย บ้านเมืองไทยจะไม่เสื่อม มากเท่านี้ จะไม่วุ่นวาย สบสน มากมายเท่านี้แน่ เพราะคนเหล่านี้ เมื่อกระทำเรื่องเสียหายย่อมมีผลกระทบในวงกว้าง

นายลี กวนยิว อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ บริหารประเทศสิงคโปร์ อยู่ 32 ปี ก่อนหน้านี้เคย นำชาวสิงคโปร์ร้องเพลงชาติมาแล้ว 3 ชาติ (God save the queen : เพลงชาติ อังกฤษ, Kimi ga yo : เพลงชาติญี่ปุ่น และ Negaraku : เพลงชาติมาเลย์) ปัจจุบัน ร้องเพลง Mujarah singapura เป็น เพลงชาติสิงคโปร์เอง นายลี เคยพูดไว้ทำนองว่า "เราต้องได้คนดีมาก่อน แล้วคนดีจะเข้ามาสร้างระบบที่ดีเอง"

การจะได้คนดีมาทำงานเพื่อส่วนรวมนั้น ก็ ควรใช้ ระบบการคัดกรองนักการเมือง ครับ

ทำไมพระสงฆ์ ถึงถือศีล 227 ข้อ ตามพุทธบัญญัติ ทำไมไม่ถือแค่ ศีล 10 หรือศีล 8 ข้อก็เพียงพอ? พระพุทธองค์ทรงทราบดี พระสงฆ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนพระองค์ คอยเผยแผ่พระศาสนา หากพร่องในศีล 227 ข้อ ชาวบ้านจะขาดศรัทธาได้ จะเป็นอุปสรรค์ต่อการเผยแผ่ศาสนา นักการเมืองก็เช่นกัน ควรจะมีข้อห้าม หรือข้อจำกัด หรือมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จิตจริยธรรม ความเสียสละ สำนึกต่อส่วนรวม นี่ถือเป็นมาตรฐานหนึ่ง อย่าให้คนเข้าสู่การเมืองง่ายอย่างเช่นปัจจุับัน แล้วปัญหาต่างๆจะค่อยๆหมดไปเอง ปัญหาที่ยากก็จะง่าย เพราะช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ปัญหาที่ง่ายก็ หดหายไป

ต่อไปอาจต้องมีเกณฑ์ตั้งให้ผู้ที่จะทำงานการเมืองต้องอย่างน้อย มีศีล 5 ครบ โดยเฝ้าติดตาม ประวัติ ชีวิตส่วนตัวจากอดีต ยัน ปัจจุบัน แล้วมีการรายงานผ่านเว็บเซอร์วิส หรือ เว็บกลาง ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ อย่างง่ายๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น