การทำบุญให้ได้บุญกุศล มี สาม ระดับด้วยกัน ซึ่งล้วนเป็นเรื่อง ปัจจัตตัง คือใครทำ ใครได้ ผลจะเกิดแก่ผู้นั้น
แล1. การให้ทาน เช่นการตักบาตรพระ การบริจาควัตถุ สิ่งของ ต่างๆ(อามิสทาน) แก่ผู้อื่น ด้วยต้องการเห็นผู้อื่นพ้นทุกข์(เมตตาธรรม) ให้ความรู้ ชักนำผู้อื่น ไปในทางที่ดี เพื่อขจัดอวิชชา ในชั้นการให้ทานนี้ การให้ ธรรมะเป็นทานดีกว่า การให้ทั้งปวง (สัพพะทานัง ธรรมะทานัง ชิเนติ)
2. การรักษาศีล ยึดมั่นในศีล ในธรรม ศีล หมายถึงการทำให้บริสุทธิ์ ศีลเปรียบเสมือน "รั้วทางใจ" ที่ป้องกันรักษา การเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ยิ่ง รักษาศีลมากข้อ ยิ่งได้กุศล เป็นการทำบุญที่ได้บุญสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง
3. การบำเพ็ญเพียร วิปัสสนา เจริญภาวนา ฝึกฝนจิตตนเอง เพื่อยกระดับจิตใจให้สุงขึ้น เรื่อยๆ ตลอดเวลา ให้จิตใจใสสะอาด ผ่องแผ้ว อันนี้เป็นหัวใจของพุทธศาสนา ของพุทธศานิกชน พึงประพฤติ ปฎิบัติ มุ่งสู่ความสงบจากภายใน จนในที่สุดสำเร็จ หลุดพ้น จากวัฎฎสงสาร ได้ อันเป็นบุญกุศลสูงสุด
เนื่องจาก ช่วงชีวิตคนเรานั้น สั้นมาก เฉลี่ย 70 ปี คนทั่วไป จึงไม่สามารถ บำเพ็ญเพียร ภาวนา ให้หลุดพ้น ได้ในชั่วชีวิตนี้ จึงต้องเวียนว่าย ตาย แล้ว เกิดใหม่ หลายภพ หลายชาติ ดั่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าจะสำเร็จ หลุดพ้นได้ ต้อง ติดอยู่ในวัฎฎสงสารถึง 500 ชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น