วันที่ 9 ตุลาคม 2551 พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หรือ บิ๊กจิ๋ว ให้สัมภาษณ์สื่อ ยุให้ทหารออกมาปฎิวัติ คนเคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรีก็แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มากมาย ไม่น่าเชื่อว่า กรอบแนวคิด ท่าที หรือ ทัศนคติ ยังคงสะท้อนวนเวียนอยู่กับ เผด็จการซึ่ง ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่จะพูดออกมา ทำให้เกิดทัศนคติ หรือ ท่าทีในเชิงของสังคมสูงมาก ไม่เป็นผลดีใดๆทั้งสิ้น สร้างลัทธิเอาอย่าง ก่อให้ทหารบางคนฮึกเหิม อยากมีอำนาจโดยไม่ถูกต้อง
ต้องขอชมเชย และ ชื่นชมต่อ ผู้บัญชาการทหารบกคนที่ 36 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ได้แสดงออกถึงท่าทีที่ถูกต้อง ในระบอบประชาธิปไตย ทหารต้องอยู่ในวินัย ต้องเป็นทหารมืออาชีพ และยังได้แสดงออกถึง ปัญหาทางการเมืองต้องควรแก้ด้วยการเมือง หรือ ภาคพลเมือง การทำปฎิวัติ มีแต่จะซ้ำเติมปัญหาให้ยุ่งยากมากขึ้น
เมื่อครั้งที่อดีต นายกสมัคร สุนทรเวช ประกาศใช้ พระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ เพื่อยืมมือทหารปราบปรามม๊อบพันธมิตร แต่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดารู้เท่าทัน จึงไม่ตกเป็นเครื่องมือ ให้นายสมัคร
การ พูด หรือแสดงออก ในลักษณะ เช่น บิ๊กจิ๋วนี้ ผมก็ไม่เห็นจะมีสื่อกระแสหลักอย่าง หนังสือพิมพ์ ทีวี หรือคนทำข่าวรายการดังๆ จะออกมาตำหนิ การกระทำดังกล่าว เพราใครๆก็ทราบว่าการปฎิวัติมีความเลวร้ายเพียงใด เมื่อมีคนพูด ให้ทหารปฎิวัติ สื่อมืออาชีพก็ต้องออกมาตำหนิคนให้ข่าว หรือแสดงความคิดดังกล่าว แต่คนทำข่าว หรือนักสื่อสารมวลชน หายไปไหนหมด หานักสื่อสารมวลชนมืออาชีพโดยจิตวิญญาณไม่พบ ได้แต่นำเสนอข่าวเหมือนเป็นเรื่อปรกติ ซึ่งใครๆก็ทำได้ แค่หยิบข่าวจากโน่นนิด นี่หน่อย แล้วมาอ่านให้ให้ชาวบ้านฟัง สบายจริงๆ ระวังนะ รอยหยักในสมองจะถูกลบหายไปหมด น่าเวทนาจริงๆ เลิกทำรายการทำนองนี้เถิด มีแค่ 1 รายการก็มากเกินพอแล้ว นะ ไม่เห็นมีอะไรประเทืองปัญญาเลย นอกจาก หยิบข่าว จากที่ต่างๆ สื่อแขนงอื่นๆ มาอ่านให้ชาวบ้านฟัง เสียดายเวลา จริงๆ ข่าวก็ไม่ต้องหา เขียนข่าวก้ไม่ต้องทำ ตรวจสอบข่าว ตรวจสอบแหล่งข่าวก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะมีคนอื่นทำให้เรียบร้อยหมดแล้ว แค่อ่านภาษาไทยให้ถูกต้อง ชัดเจน ก็ยังทำไม่ได้เลย ผ่าซี!! สะอิดสะเอียนรูปแบบรายการทำนองนี้จริงๆ
คนทำสื่อมืออาชีพ คนรักชาติ รักประชาธิปไตย รักบ้านเมือง ต้องออกมาปกป้องทันที ที่ใครก้ตามที่พูดหรือยุแหย่ ให้เกิดผลร้ายต่อระบอบประชาธิปไตย
ส่วนในกรณีของอาจารย์หมอประเวศ วะสี ที่กรุณาให้คำแนะนำให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือ อะไรก็แล้วแต่นะเรียกกัน นั้น เป็นสิ่งสมควรอย่างยิ่ง ณ ขณะนี้ เพราะ จะได้ลดความขัดแย้งลงก่อน และจะได้บริหารบ้านเมืองไปด้วยความราบรื่น แล้วบูรณาการระบบการคัดกรองนักการเมืองเสียใหม่ ให้มีมาตรฐาน เหมือนมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตามที่เคยได้ให้แนวคิดไว้แล้ว การเมืองไทยจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้เลย หากยังคงเป็นอยู่เช่นนี้ หรือคิดแต่เพียงแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมยืนยันว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ใช่ตัวปัญหาแน่นอน คน หรือนักการเมืองที่ไม่มีมาตรฐาน ต่างหากที่เป็นปัญหา