2 การเพิ่มสลาก เข้าสู่ระบบแก้ปัญหาสลากเกินราคาไม่ได้ เพราะ เท่าที่ฟังดูเพิ่ม14 ล้านฉบับ(ข่าว) คนที่คิดเรื่อง Demand pull, supply push strategy เพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคานั้น ไม่น่าจะได้ผลในกรณีนี้ ซึ่ง เมื่อสลากเพิ่มขึ้น ผู้ค้าสลากที่มีเงิน(ซึ่งในระบบ มีมากจริงๆ ตราบใดที่โครงสร้าง การจัดจำหน่ายสลากของกองสลาก ไม่เป็นธรรม ยังผูกขาดได้ สมคบคิดกันได้ และกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่รุนแรง)ก็ จะ ยิ่งเก็งกำไร ทุ่มเม็ดเงินสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น แม้บางครั้งกำไรต่อหน่วยอาจจะลดลง แต่เมื่อ ได้ปริมาณ ที่เพิ่มขึ้น ตัวกำไรก็ไม่ลดลง ผลเสียกลับกลายเป็น คนขายสลากจะรุกหนัก ทำให้ตลาดขยายตัว ทำให้คนเล่่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อคนเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ สลากเกินราคาก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข กองสลากก็จะต้องเพิ่มสลากเข้าสู่ระบบอีก ต้องทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรืออย่างไร ?? ซึ่งไม่น่าจะตรงประเด็น จึงไม่น่าจะแก้ปัญหาได้
จากภาพด้านบน ป้ายราคาที่ขายเกินติดไว้ให้เห็นอย่างชีัดเจนยังไม่มีปัญญาบังคับใช้กฎหมาย
สมมุติว่าเพิ่ม อีก เท่าตัว หรือ อีก 100 ล้านฉบับล่ะ?? เรียกว่า ให้เหลือแน่ๆ ล่ะ
ยิ่งไม่ควรทำเพราะ ...
1 เท่ากับมอมเมาประชาชน อย่างหนัก
2. แก้ปัญหาไม่ตรงจุด
3. สิ้่นเปลืองทรัพยากร ต้นทุนในการพิมพ์ การกำจัด การรับคืนสลาก แพงขึ้น
4. อาจต้องเพิ่มเงินรางวัล เพราะ โอกาสถูกยิ่งน้อยลงทำให้ไม่น่าสนใจ พอเพิ่มเงินรางวัล ก็กระตุ้นตลาดให้โตอีก วนกลับมาที่เดิม คือ ขายเกินราคา
5. ฯลฯ
ที่แน่ๆ เม็ดเงินกำไร ของผู้ค้าสลากรายใหญ่ๆ ที่เป็นเสือนอนกิน(เงินคนยากจน) เป็นผู้อุปถัมภ์ ค้ำชู พรรคการเมือง บางพรรค หรือทุกพรรค แน่ หรือ เกี่ยวโยงกันกับผลประโยชน์อื่นๆ ต้องมีแน่ ดั่งที่หม่อยอุ๋ยตั้งข้อสังเกต เพราะความสกปรก ผลประโยชน์ ตรงนี้มีมากเหลือเกิน แต่ยากที่จะชำระล้างให้หมดไปได้
ผลประโยชน์ตรงนี้ได้ตั้งแต่ รมต. มหาดไทย และ หรือ รมช.มหาดไทยถูกใส่พานให้โดยตำแหน่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นักการเมือง พรรคการเมือง ผอ.กองสลาก คณะกรรมการกองสลาก ใครจะได้มากน้อยเท่าไหร่ เท่านั้นล่ะ ที่จริง แก้ปัญหาสลากเกินราคาง่ายมากเลยนะ แค่เอา ใครก็ได้ ที่ซื่อสัตย์ สุจริต มุ่งมั่น จริงจัง ไปเป็น ผอ. กองสลาก ก็แก้ได้แล้ว(เอาคนดี เก่ง มีคุณธรรมไปสร้างระบบที่ดี) แถมยังทำให้ผลประกอบการกองสลากดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย
ท่านนายก อภิสิทธิ์ เหลือเวลาไม่มากนักหรอกนะ ถ้าตั้งใจจะทำงานให้บ้านเมือง อย่างที่ใจมุ่งมั่น น่ะ เพราะ ณ ขณะนี้เป็นผู้บริหารสูงสุด ยังไม่มีปัญญาแก้ไข ซึ่งหลายต่อหลายเเรื่อง ของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นธรรมในสังคม ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ จากผู้ประกอบการ ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แก้ปัญหาการเมืองที่แค่แนวความคิด ก็ผิดแล้ว ที่ไปโทษรัฐธรรมนูญ ระบบราชการที่เล่นพรรคเล่นพวก ซื้อขายตำแหน่ง คุณธรรมความดีงาม ความสามารถ อยู่รั้งท้ายของเกณฑ์วัดผล ดูที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นตัวอย่าง จนบัดนี้ ท่านนายก อภิสิทธิ์ ยังไม่สามารถตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เล้ยยยย ประชุม ก.ตร. กี่ครั้งมาแล้ว แค่นี้ก็อนุมานได้แล้วว่า เมืองไทย มีปัญหาหนักหนาสาหัสแค่ไหน ผมถึงกล้าฟันธงว่า ถ้าไม่มีระบบการคัดกรองนักการเมือง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในระบบทุนนิยมเสรี ประเทศไทยจะถดถอยลงทุกวัน ต่อไป ใครฆ่าใคร ที่ไหนก็ได้ ไม่มีใครกลัวใคร เพราะกลุ่มอิทธิพล ครองเมือง เหมือนอย่างประเทศฟิลิปปินส์ที่มีการสังหารหมู่ 57 ศพ ออ.... เมืองไทยก็มี กลุ่มอิทธิพลพกปืน ยิงคนคัดค้านที่ตลาดสดคลองเตย (ข่าว) หรือ การลอบสังหาร คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จนบัดนี้เรื่องเงียบไปแล้วววว หาคนลงมือ คนสั่งการไม่ได้ ความเป็นธรรมในสังคมอยู่ไหน ??? หรือว่า คนถืออาวุธจะเป็นคนบอกว่า ความเป็นธรรมในสังคมอยู่ไหน?? อย่าคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว เฉพาะคน เป็นเรื่องของระบบที่ไปเสริมสร้างคน กลุ่มคนที่ไม่เห็นคุณค่า ชีวิตคนอื่น ไม่เคารพกฎหมาย เห็นแต่ประโยชน์ฺตน แต่ยังคงอยู่ในสังคมได้อย่างสง่าผ่าเผย เชื่อเถิด..... คนดีจะห่างหายไปจากสังคมไทย เพราะคนทำดีจะไม่ไ้ด้รับการปกป้อง ดูแล สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่อีกต่อไป นี่คือสิ่งที่ในหลวงทรงห่วงพระทัย
ตอนต่อไปค่อยว่ากันเรื่อง แนวทางการบริหารจัดการ สลากเกินราคาให้หมดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น