Powered By Blogger

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

นักการเมืองไทยในโลกที่แบนราบ


ในโลกที่แบนราบลงเรื่อยๆ ที่กำแพงแทบทุกด้านถูกทำลายลง สนามแข่งขันแทบทุกสนามถูกปรับสภาพให้ใครก็ได้เข้าสู่การแข่งขันได้เสมอภาคกันมากยิ่งขึ้น ที่...ทุกๆวันมีการสร้างสรรค์ข้อมูลทางดิจิตอลในทุกรูปแบบทั้ง ข้อความ, ภาพ, เสียง มากกว่า วันละ 15 petabyte หรือเทียบได้กับการบรรจุข้อมูลเหล่านี้เก็บไว้ในไอพ๊อด จนเต็ม ได้ 30,000 ล้านเครื่องทุกๆวัน ....ที่มีความร่วมมือห้องวิจัยระดับโลก (collaboratory) ของบริษัท IBM ...เมื่อกลางทศวรรษที่แล้ว ใครจะเชื่อว่า ที่หน้าเว็บไซต์ หน้าหนึ่งทางอินเตอร์เน็ต จะสามารถหารายได้มากว่า 20 ล้านบาทต่อหนึ่งวัน
..ที่มีการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีแปลกๆใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกวินาที เพื่อ เสนอ สนองความสะดวกสบาย แก่มวลมนุษย์ ที่ผู้คนในโลกเดินทาง ใช้ชีวิตที่ไหนก็ได้อย่างสะดวก สบาย ปลอดภัย และยังสามารถรู้ตำแหน่ง พิิกัด ที่อยู่ได้แบบ real-time ด้วย ตลอดจนการร่วมกันของทั้งภาครัฐและเอกชน มากกว่า 145 ประเทศทั่วโลก เพื่อหาทางหยุดยั้ง แก้ไข ภาวะโลกร้อน(global warming) ขององค์กร GWIC (Global Warming International Center)

แต่... แต่.. นักการเมืองไทยไม่สำเหนียก ไม่รับรู้ ไม่สนใจ สิ่งที่ตัวเองเคยเรียกว่า "เสียงสวรรค์" ที่ตอนนี้กลายเป็น "เสียงนกเสียงกา" ทั้งดื้อด้าน ไร้ยางอาย ไม่พยายามปรับวิธีคิด อุทิศตัว ทำงานให้แก่ส่วนรวมอย่างทุ่มเท กลับสนใจหมกมุ่น แต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าของกลุ่มก้อนตัวเอง ไม่สนใจความผิด-ถูก ประโยชน์ สาธารณะ หรือประโยชน์ส่วนตัว เป็นอยู่อย่างนี้มาเนิ่นนาน และนับวันจะยิ่งหนักข้อมากยิ่งขึ้น

ไปดู งานวิจัยขององค์กรตรวจสอบการโกงกินแห่งนานาชาติ (Transparency International--TI) สิ โุแค่ย้อนหลังไป 12 ปี อันดับการโกงกิน (corruption) ได้คะแนน(ตามตัวชี้วัด--CPI) ระหว่าง 3.2-3.8 จากคะแนน เต็ม 10 และอันดับก็ตกต่ำลง จากอันดับ 60 กว่า ไปสู่ 84 ในปี 2009

อย่างที่เคยเขียนถึงไว้ วงจรอุบาทว์การเมืองไทย, รูปแบบประชาธิปไตย(political platform) อย่างที่เราใช้กันอยู่นี้ไม่ตอบโจทย์ซักข้อ ของประชาธิปไตยภาคพลเมือง เมื่อนักการเมืองสร้างความเสียหายแล้ว หรือกระทำตัวไม่เหมาะสม จะถอดถอนก็ดี อภิปรายในสภาก็ตาม ในกระบวนการอย่างไทยๆแล้ว เอานักการเมืองออกจากตำแหน่งยากเหลือเกิน ยิ่งเอาผิดตามกฎหมายด้วยแล้ว เแทบจะทำไม่ได้เลย

อย่างกรณี นายมานิต นพอมรบดี รมช. สาธารณสุข มีความผิดตามมติของคณะกรรมการฯ จนบัดนี้ยังลอยนวล นายก อภิสิทธิ์ ก็ยังไม่กล้าปรับออก แม้นจะบอกว่ามีจุดยืน มีกฎเหล็ก 9 ข้อ แต่ก็ไม่กล้าหาญเพียงพอที่จะลงมือ"เชียด" นักการเมืองก็ยังจะถ่วงเวลา หัวหน้า่พรรคภูมิใจไทย นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกุล พ่อนาย อนุทิน ชาญวีรกุล ที่ไม่ให้ฟังกระสังคม อ้างต้องปรึกษา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน(วิดีโอข่าว) ซึ่งถูกศาลคดีการเมืองสั่งยุติบทบาททางการเมือง 5 ปี ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า... กลับกลายเป็น ผู้มีบทบาทสูงสุด ในการจะให้คนผิด "อยู่หรือไป" การเมืองไทย ทั้งคนและระบบเพี้ยนหมดแล้ว!!

เพื่อเช็ดดูท่าที ทั้งทางการเมือง และ กระแสสื่อว่าจริงจังแค่ไหน สื่อกระแสหลัก ก็ไม่แสดงบทบาท จุดยืนเรื่องความถูกต้อง อย่างจริงจัง และรุนแรงต่อนักการเมืองแบบนี้ และ "นักการเมืองสายพันธุ์" นี้ ก็มีดีเอ็นเอ ทนทาน ต่อแรงเสียดทาน ซึ่่งโลกนี้ไม่ต้องการ ด้วยวิธี สงวนท่าที ทำนองนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง ความคุ้นเคยให้แก่ ทั้งตัวนักการเมืองเอง(ว่า..เห็นมะ..ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังอยู่ได้) สื่อกระแสหลัก และ ประชาชน ให้ค่อยๆยอมรับ แม้นไม่เต็มใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนกลายเป็น "การเมืองแบบไทยๆ" เรียกว่า เมื่อเจอคนเน่า ก็หวังว่าระบบจะกำจัดออกไปได้ ก็เจอระบบเน่าอีก

การโกงกินตามที่เห็นเป็นข่าวตามสื่อต่างๆนั้น เป็นเพียง 0.0001 % เท่านั้น แต่สิ่งที่ไม่เป็นข่าว ดูเหมือนเรียบร้อยดี ปรกติดี ไม่ได้หมายความว่า ไม่เกิดการทุจริต ไม่มีการโกงกินหรอกนะ ที่ไม่เป็นข่าวเพราะ ตรวจสอบไม่ถึง แบ่งผลประโยชน์กันเองลงตัวดี โกงกินได้อย่างเนียบเนียนดี ต่างหาก

ดังนั้น การมีระบบการคัดกรองนักการเมืองจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในระบบประชาธิปไตย ที่กระแสทุนนิยมเสรีไหลเชี่ยว สดๆร้อนๆ แม้แต่ในสหรัฐอเมริกา เอง ก็หนักหนาสาหัส ไม่แพักัน ซึ่งในเนื้อข่าว นั้นสอดคล้องกันสิ่งที่ผมเคยเขียนถึงไว้ ว่า ต้องจำกัดการให้เงินอุดหนุนนักการเมือง และพรรคการเมือง ให้น้อยที่สุด

อืมมม....นึกอยากร้องเพลง "นางแมวยั่วสวาท" ของ วงหินเหล็กไฟ เวอร์ชั่น ฮิปฮอป ที่มีตอนนึงว่า...."ไป ไป....ไปลงนรกเสียเถิด......"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น