Thailand Transformation:For sustainable and peaceful nation เสนอแนวคิดใหม่ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ในระบอบประชาธิปไตย ทุนนิยมเสรีอย่างยั่งยืน เป็นธรรม มีความสงบสุข
วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Chuvit Kamolvisit : "Yes I'm (A) Bad (Guy)"
ในการให้สัมภาษณ์สื่อ เดอะ แบงคอก โพสต์ (The Bangkok Post) ของนายชูวิทย์ ครั้งนี้ นาย ชูวิทย์ ตอกย้ำว่าตัวเองเป็นคนเลว (I'm a bad guy) อย่างน้อย 3หน ระหว่างการให้สัมภาษณ์ 5นาที 23 วินาที
แต่ได้สะท้อนนัยะแห่งปัญหาการเมืองไทย 3 ประการด้วยกัน..
1. แม้แต่คนเลวอย่างนายชูวิทย์ ก็สามารถ"เล่น"การเมืองได้ นั่นคือ ระบบการคัดกรองนักการเมือง ไม่มีเลย (ซึ่งเป็น 1 ในปัญหาหลักของการเมืองไทย)หรือที่ผมเรียกว่า ใช้ตระแกรงกรองน้ำกิน ไม่ได้ใช้เครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพ น้ำที่ได้จึงเป็นน้ำไว้สำหรับ"ล้างตีน"ได้เท่านั้น
คนเลวๆ อื่นๆก็สามารถเข้าสู่การเมืองได้เช่นเดียวกัน เข้าไปบริหารเงินภาษีประชาชน นับ สองล้านๆบาท/ปี เข้าไปออกนโยบายสาธารณะต่างๆ ออกกฏหมายใช้บังคับประชาชน 70 ล้านคน นี่คือการเมืองที่ไร้มาตรฐานอย่างยิ่ง
2. พรรคการเมืองต่างๆ เป็นของบุคคล มีเจ้าของชัดเจน มิได้เป็นของประชาชนดั่งทฤษฎีว่าไว้ แม้แต่บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5ปี ก็ไร้ผล บุคคลเหล่านี้ก็ยังคงกด"รีโมต" สั่งการได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ พรรคการเมือง จึงเป็นแค่รูปแบบ เท่านั้น แต่เนื้อหาเป็นเผด็จการโดยแท้ ประชาชนมีหน้าที่แค่ หย่อนบัตรลงคะแนน จบข่าว!!!
3. การเลือกตั้งทุกครั้งจึงเป็นการแข่งขันกันเองระหว่างคนเลวๆ ที่สร้างภาพว่าเป็นคนดี มีคุณธรรม มีความสามารถ เสียสละ มารับใช้ประชาชน "ตอแหล"ทั้งนั้น ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ของชาติในการปล่อยปละละเลยให้คนเหล่านี้ เข้าสู่แวดวงการเมือง แค่นี้ก็มองเห็นอนาคตของชาติไทยแล้ว ว่าจะไปในทิศทางใด ซึ่งที่จริงก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด 70 กว่าปี
วิดีโอคลิปที่สองนี้ นายรักเกียรติ ได้ให้ข้อมูลซึ่งเป็นความจริงอย่างที่สุด นั่นคือ เงินทางการเมือง(Money politics)ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ปัญหาหลักของการเมืองไทย ที่นักการเมืองได้เงินมาจากห้าง ร้าน ธุรกิจต่างๆ ซึ่งตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญ ปี 50 ให้พรรคการเมืองรับเงินบริจาคได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท/ปี ซึ่งมากเกินไปมากมายนัก แต่ในความเป็นจริง บางพรรคการเมืองได้รับเงินมากมาย นับ ร้อยๆล้าน เมื่อนักการเมืองได้เข้าไปใช้อำนาจรัฐ ก็ไปทำงานให้เจ้าของเงินเหล่านั้นก่อนแน่ เช่น การทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ของ นายก อภิสิทธิ์ กรณี บริษัืททรู ซื้อ บริษัทฮัช ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซีดีเอ็มเอ (Hutch-CDMA Service Provider) และพยายามหาช่องทางโกงกิน เพื่อทั้งตัวเอง พวกพ้อง และพรรคไว้ใช้เลือกตั้งครั้งต่อไป เป็นอย่างนี้ ตลอดมา 70 กว่าปี ถามว่า ประชาชนอยู่ไหน ประชาชนมาก่อนจริงรึหรือเปล่า(ว่ะ)
ขอขอบคุณ คุณรสนา โตสิตระกูล ที่มีแนวคิดเหมือนกันและพยายาม ให้รัฐสภาเริ่มทำในสิ่งที่สมควร เช่น ทำบันทึกประวัติการทำงานของนักการเมือง อย่างระเอียดเพื่อให้ประชาชนไว้ศึกษา แต่รัฐสภาไม่เอาด้วย พยายามต่อไปนะครับ
คลิปสุดท้ายนี้เป็นการวิเคราะห์การเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 นี้ ของ คุณทักษิณ
หลังการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 นี้ เป็นวันเริ่มนับถอยหลังของรัฐบาลชุดใหม่ และ เริ่มความรุนแรงทางการเมืองรอบใหม่ ไม่ว่าใครจะเข้ามาใช้อำนาจบริหาร ต่อให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเกินกึ่งนึง สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ได้ หรือ แม้พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสียงมากกว่าครึ่ง(ซึ่งอีก 10 ชาติก็ไม่มีทางเป็นไปได้หากวิธีคิดและ วัฒนธรรมของพรรคยังเป็นแบบนี้) ก็หนีไม่พ้นความรุนแรงทางการเมืองรอบใหม่ และจะรุนแรงมากว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา
ป้ายกำกับ:
ทักษิณ,
รสนา โตสิตระกูล,
ระบบการคัดกรองนักการเมือง,
money politics
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น