Powered By Blogger

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ถูกวางระเบิดเวลาด้วย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 442 โรงงาน !!!..1

จากข่าว  ข่าว  ข่าว เมื่อเร็วๆนี้ เป็นความรับผิดชอบ เป็นความกล้าหาญที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ของ คณะรัฐบาล เยอรมนี นำโดย Angela Dorothea Merkel ซึ่งเป็น Chancellor of Germany(เทียบได้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) ที่กล้าหาญตัดสินใจสั่งการปิดเตาผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ จำนวน ที่เหลืออยู่ 17 โรงงาน คิดเป็น 23% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ ภายในปี 2022 หรือ อีก 11 ปีข้างหน้า หลังได้รับรายงานการวิจัยถึงผลกระทบ จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และเห็นแบบอย่างจาก การรั่วไหลของ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์  ที่ fukushima ภายหลังแผ่นดินไหว และ คลื่นยักษ์ สึนามิ พัดถล่ม

                                            หัวหน้ารัฐบาล เยอรมนี Angela Dorothea Merkel

หากนับถึง วันที่ 19 มาราคม 2011 โลกเรามีโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ 442 โรงงาน ใน 30 ประเทศ กำลังการผลิตรวม 375 กิกกะวัตต์(GW) และกำลังอยู่ในช่วงการก่อสร้างอีก 65 โรงงาน กำลังการผลิตรวม 63  กิกกะวัตต์(GW) ใน 16 ประเทศ

สิ่งนี้จึงนับเป็นภัยคุกคามอย่างมหันต์ต่อสรรพสิ่งในโลกนี้ โดยนักการเมืองของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศต่างๆที่มีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ตั้งอยู่ เป็นการวางระเบิดเวลาต่อพลเมือง ต่อลูกหลานของตัวเอง ที่เหล่านักการเมืองทั้งหลาย ฝากเอาไว้ให้  แม้ในอดีตที่ผ่านมา 50ปี เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีคนตาย บาดเจ็บเรือนแสน จะแน่ใจได้อย่างไรว่า ในอนาคต จะไ่ม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อน??? ลำพังภัยธรรมชาติร้ายแรง เป็นเหตุให้ผู้คนล้มตายเรือนเหมื่น เรือนแสน พอเข้าใจได้ เพราะ มนุษย์ไม่ได้ก่อโดยตรง  หรือคิดว่า ประเทศตัวเองจะล่มสลาย สูญหายไปในไม่ช้านี้

ตำแหน่งที่ตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ตามภูมิภาคต่างๆทั่วโลก

ประเทศต่างๆที่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์


                                         จำนวนโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให่อีก 65 โรงงาน


 อายุของแต่ละโรงงาน


                                        สัดส่วนของไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ผลิตได้เมื่อเทียบกับพลังงานอื่นๆ


จริงอยู่ ไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นพลังงานสะอาดรูปแบบหนึ่ง แค่ใช้ แร่ ยูเรเนียม 235 เพียงวันละ 3 กิโลกรัม สามารถผลิตไฟฟ้าเลี้ยงคนได้ 1 ล้านคน ณ ปัจจุบันนี้ นับว่าเป็นความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ยิ่งกว่า พลังงานใดๆ  ภายหลังเหตุการณ์ สึนามิ ถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ญี่ปุ่นแล้ว ถึงบทสรุปว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนนั่นเอง   ....







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น