Powered By Blogger

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เราต้องร่วมกันรุมประณามแกนนำเสื้อแดงเท่านั้นจึงจะหยุดยั้งความรุนแรงได้


เมื่อประมวลเรื่องราวตลอดเวลาที่ผ่านมาของพฤติกรรมแกนนำเสื้อแดง ตั้งแต่ ข้อเรียกร้องที่ไม่มีความชอบธรรม การชุมนุมสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ และไร้ความรับผิดชอบต่อเด็ก สตรีที่แกนนำจงใจใชัเป็นโล่ห์ เป็นบังเกอร์ให้ตัวเอง อย่างไร้ยางอาย เพราะกลัวตาย หรือแม้แต่ยุแหย่ สัั่งให้ผู้ก่อการร้ายโจมตี ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ผู้บริสุทธิ์ ช่างหน้าอดสูใจจริงๆ  คนพวกนี้ถึงเวลาก็หนีหาย เหมือนนายวีระ มุกสิกพงศ์ และพรรคพวกบางคนหนีไปแล้ว คนพวกนี้ ทำได้สำเร็จได้ก็รวยมากด้วยได้ตำแหน่งด้วย หากล้มล้างรัฐบาลไม่สำเร็จก็หนีหายตัวไป แต่ก็ร่ำรวยด้วยเงินค่าจ้างก้อนโตที่นักธุรกิจบางคนรวมหัวกันจ่ายให้ แม้แต่คนที่มาชุมนุมที่ราชประสงค์ส่วนใหญ่ก็ได้รับเป็นค่าจ้างรายหัวต่อวัน

ฮุนเซ็น เสธ แดง และทักษิณ

การเชื่อมโยงกัน แบ่งกันทำงานแต่เป้าหมายเดียวกัน ของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย(เพื่อทักษิณ-พ.ท.)นักวิชาการบางคน แกนนำเสื้อแดง นายทหารบางคน นายตำรวจบางคน ส.ว. นักธุรกิจบางกลุ่ม บางคน การมีผู้ก่อการร้าย ล้วนสอดประสานกัน เป็นขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ ซุ่มโจมตี กล้าหาญท้าทายอำนาจรัฐ อย่างไม่เกรงกลัีว ไม่เคารพกฎหมายอะไรทั้งสิ้น ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทำตามงานที่ได้รับจ้างมา ถือว่าซื้อสัตย์ต่อผู้ว่าจ้าง แต่ทรยศต่อแผ่นดิน

ผู้ก่อการร้ายที่ทำงานให้กับแกนนำเสื้อแดงที่ถนนพระรามสี่-บ่อนไก่

 หากคนพวกนี้ล้มรัฐบาลได้สำเร็จ จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าการที่รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้ ดึงความเป็นนิติรัฐ ให้ยังคงศักดิ์สิทธิ์ หน้าที่ของท่านนายก อภิสิทธิ์ จึงต้องกำหราบแกนนำ ผู้ก่อการร้ายให้สิ้นซาก และต้องกระชากหน้ากากของพวกนักธุรกิจที่ทำลายชาติโดยให้เิงินสนับสนุนผู้ก่อการร้าย ปิดบริษัท ยึดทรัยพ์สินบริษัทตกเป็นของแผ่นดินให้สิ้น มิฉะนั้น พวกนี้ก็ไม่เข็ดหราบ ค้ากำไรเกินควร เล็งผลเลิศ หากทำสำเร็จก็ได้ประโยชน์มากมาย แต่ประเทศชาติและประชาชนเสียหายอย่างประมาณค่ามิได้ โดยเฉพาะ เด็กๆและเยาวชน ได้แบบอย่าง ซึมซับสิ่งเลวๆ จากคนที่อ้างว่าเป็นคนดี อ้างประชาธิปไตย สารพัดอ้าง หาก แค่ยุบสภาทันทีแล้วแก้ปัญหาได้หมดตามข้อเรียกร้อง ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกแน่นอน

เด็กที่ผู้ก่อความไม่สงบนำเป็นโล่ห์ป้องการการยิงโต้ตอบ

ดังนั้นการที่ส.ว.กลุ่มหนึ่ง นำโดย พล อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช เข้าเสนอเป็นคนกลางเจรจากับแกนนำเสื้อแดงจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้เจตนาดี ลดความสูญเสียหากพูดคุยกันได้ แต่สิ่งที่ต้องทำยิ่งกว่าก้คือต้องรุมประณามแกนนำและเป็นผู้ก่อการร้าย ทำร้ายประชาชนเสียเองเพื่อโยนบาปให้เจ้าหน้าที่ หมดความชอบธรรม ไม่ใช่เรียกร้องให้รัฐบาลละเลยการบังคับใช้กฎหมายอย่างแคร่งครัด การบังคับใช้กฎหมายไม่เคยเกิดขึ้นจริงจังสักหน สิ่งเหล่านี้ ประวัติศาสตร์การเมืองไทยจึงซ้ำรอยอยู่เสมอ ลองนึกทบทวนดู  เพราะความอ่อนแอทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้นำทางความคิดต่างๆ ละเลยหลักการนิติรัฐ การให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ต่อผู้ก่อการร้าย นักธุรกิจรวมหัวกันล้มล้างรัฐบาล

สนับสนุนให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายให้เป็นผลสำเร็จ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันรุมประณามแกนนำเสื้อแดงและ ผู้สนับสนุนทุกฝ่ายที่กำลังพาชาติของเราสู่หายนะ การช่วยกันประณามจึงเท่ากับเป็นการบอกแกนนำโดยตรงว่า สังคมที่รักสงบไม่ต้องการให้มีการชุมนุมแบบนี้อีกต่อไปให้ยุติเสีย มิใช่เจรจาหาทางออกให้แกนนำเสื้อแดง เหมือนเป็นการให้ท้ายคนทำความผิด และก็จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่อยมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น