Powered By Blogger

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม(Justice delayed is justice denied)

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ องคมนตรี กำธน สินธวานนท์ ออกมาพูดทำนองว่า รัฐบาลตั้งรับมากเกินไป ไม่กล้าหาญพียงพอที่จะดำเนินคดี เมื่อมีคน หรือ กลุ่มบุคคลทำผิดกฎหมาย (อาจจะผิดซ้ำซากด้วย) หรือมีแนวโน้มว่าจะกระทำความเสียหายแก่บ้านเมือง แต่รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในทางปฎิบัติที่จะจัดการ ดำเนินการอะไรเลย ได้แต่ "พริ้ว" ตีสำนวน ตอบโต้ ไปมา เมื่อรัฐบาลถือกฎหมายอยู่ในมือแท้ๆ ยังไม่กล้าหาญ ไม่กล้าดำเนินการอะไร แล้วประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งมากกว่า 99.99% ที่รักสงบ จะพึ่งพาได้อย่างไร ซึ่งผมเคยเขียนถึง (นี่ด้วย) ขนาดนายก อภิสิทธิ์ ยังทำอะไรไม่ได้ แล้วจะอยู่บริหารกิจการบ้านเมืองไปเพื่ออะไร?? ในเมื่อสังคมต้องการ ให้จัดการคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าดำเนินการ นี่ก็ถือว่าเพี้ยน!!



ทั้งแกนนำเสื้อหลือง เสื้อแดง หรือ เสธแดง พลเอก พัลลภ หรือใครอื่นใด ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายไทยหรือ? หรือว่า รัฐบาลเกรงกลัวอำนาจเถื่อนๆ ?? หรือว่ากลับม๊อบ ? หรือว่ากลัวสูญเสียอำนาจ ? หรือว่า หาทุนทางการเมืองยังไม่ได้เป้า??(หรือว่าถูกทุกข้อ ?) ผมบอกได้เลยว่า ถ้าท่านนายก อภิสิทธิ์ ประกาศดำเนินคดี กับ ใครก็ตามที่ละเมิดกฎหมาย ความสงบสุขของประชาชนอย่างเฉียบขาด โดยเฉพาะกับ "ผู้ยิ่งใหญ่" ทั้งหลาย ตอนนี้ สังคมจะปรบมือให้ อย่างห่วงว่าจะอยู่ไม่ได้หากตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต อย่าให้คุณให้โทษ ใคร กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง อย่างไม่เป็นธรรม แม้นตอนนี้อาจต้องยุบสภา แต่ไม่นานก็จะกลับเข้ามาได้อย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้นอย่าห่วงสถานะตัวเอง ถ้าห่วงก็จะไม่กล้าทำอะไร อย่างที่เป็นอยู่ (กลัวเกินไป ทำอะไรไม่ได้ความ กล้าจนเกินงาม จะพบกับความเดือดร้อน) เมื่อการบริหารประเทศ ทีี่ข้าราชการ ต้องมองหน้านักการเมืองที่มีอำนาจ ก่อนทำตามหน้าที่ ทำตามกฎหมาย บ้านเมืองก็เดี้ยงแล้ววว

ทั้ง เสธแดง และ พลเอก พัลลภ เป็นสัญลักษณ์ แ่ห่งความรุนแรง นักรบ นักฆ่า ยึดติดอยู่กับอำนาจนิยม ไม่ใช่ประชาธิปไตย อย่างที่อ้าง จากท่าที ทัศนคติ ของคนทั้งคู่ที่เคยให้สัมภาษณ์ ผ่านสื่อหลายต่อหลายหน เรื่อยมา ซึ่งนำสังคมที่รักสงบในโลกนี้ ไม่ได้ สิ่งที่ แกนนำคนเสื้อแดงหลายคน ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของคนทั้งสอง ก็บ่งบอกได้ว่า แกนนำคนเสื้อแดง ไม่เห็นด้วยกับวิธีความรุนแรง (ข่าว)(คิดในเชิงบวก ไม่อยากคิดว่า คนเหล่านี้แย่งชิงซีน แย่งชิงอำนาจกันเอง)

แต่ก็ดีแล้ว พระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง ที่ให้พล เอก พัลลภ เปลี่ยนใจ ออกนอกเส้นทางไปเสียตอนนี้ ที่ประกาศยุติบทบาท งดร่วมสังฆกรรมกับ คนเสื้อแดง

นายก อภิสิทธิ์ ไม่แก่งด้านการตลาด หรืออาจรวมถึง ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษาด้วย ที่ไม่รู้ว่า คนในสังคมต้องการอะไร ถ้าเก่ง ถ้า่รู้จริง ต้องปรับเปลี่ยน วิธีคิด นานแล้ว หรือจะบอกว่ารู้จริง แต่ก็ไม่เห็นแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้ อย่างเป็นมรรคเป็นผล หรือว่ารู้จริง แต่ไม่มีปัญญาแก้ไข

วัฒนธรรมองค์กร ในพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็แทบไม่แตกต่างอะไรกับพรรคการเมืองอื่นๆ ดูอย่างเมื่อเร็วๆนี้ อดีต รมต สาธารณสุข นาย วิทยา แก้วภราดัย ที่จำต้องลาออกไป พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังแต่งตั้งให้เป็นประธานวิปรัฐบาล หรือว่า คนในพรรคไม่มีใครอื่นที่เหมาะสมอีกแล้ว วิธีคิด วิธีปฎิบัติ แบบนี้ ที่ทำร้ายความรู้สึกคนในสังคม เหมือนกับจะบอกว่า " ถ้าสังคมจับได้ว่า (จะ) โกงกิน ไม่สุจริตก็แค่ให้ลาออกไป แต่พรรคก็ยังให้ท้าย สนับสนุน ก็พวกมาก ลากกันไปอยู่นั่นเอง และก็ยังเีวียนวนอยู่ในพื้นที่สาธารณะ รอจังหวะเข้าสู่อำนาจ

นี่คือส่วนหนึ่งของ การเมืองแบบไทยๆ ที่นักการเมืองพายเรืออยู่ในอ่าง.... เน่าๆ !!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น