Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้และทางออก (ตอนที่1)

พี่น้องชาวมุสลิมทางภาคใต้ โดยเฉพาะ สามจังหวัด ที่กำลังปะทุเป็นพลุแตกขณะนี้ เกิดจากความไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งถูกปฏิบัติเยี่ยงพลเมืองชั้นสอง จากเจ้าหน้าที่รัฐ และสื่อกระแสหลัก อย่างหนังสือพิมพ์ และทีวี บางคนฉงนใจว่า สื่อเกี่ยวข้องได้อย่างไร ?? สาเหตุอย่างอื่นๆนั้น เป็นตัวหลอก ไม่มีนัยแห่งปัญหา

ความเป็นธรรมในสังคม (Social justice) จะเกิดขึ้นได้ในสังคมก็ต่อเมื่อ สังคมนั้นต้องปฏิบัติต่อกันอย่าง
เสมอภาค ด้วยจิตเคารพรัก (Respectful mind) เห็นคุณค่าของคนเสมอเหมือนกัน ยึดถือตัวหนังสือ คือกฏหมาย ไม่ว่าคนกระทำความผิดกฏหมายนั้น จะยากดี มี จน ยศมาก น้อยแค่ไหน ก็ต้องใช้ปทัสถานเดียวกัน ไม่ใช่คนบางคนทำผิด ก็ช่วยเหลือกัน จนพ้นผิด พวกมากลากไป ไม่มีพวกก็ รับกรรมไป ไม่มีเงินทองทรัพย์สมบัติ ก็ ติดตุกติดตะรางไป เลือกใช้ เลือกปฏิบัติ อย่างไร้ยางอาย อย่างที่เป็นอยู่ในสังคมไทยมาเนินนาน ทุกคนที่เอาเปรียบคนอื่น เล่นพวก พ้อง ควรถอยออกมาจากวงกลมที่เป็นพื้นที่สาธารณะ (Public Domains) เพราะ ถ้าคนบางคน บางกลุ่มทำได้ คนอื่นๆ ก็จะพยายามหาทางทำให้ได้เช่นกัน ไม่มีใครกลัวใคร ไม่มีใครยอมใคร หาพวกพ้องช่วยกัน หาเงิน หาทองมาใช้หาอำนาจ คนมีอำนาจ ก็ใช้หาเงินทอง พวกพ้อง ลากกันไปแบบผิดๆ คนที่ทำตรงไปตรงมาก็กลายเป็นแกะดำ ถูกมองว่าโง่ เต่า กลายเป็นค่านิยมที่ผิดเพี้ยนไป นำไปสู่วงจรอุบาทว์ (แกนนำคนเสื้อแดงก็พยายามยกลิ่งเหล่านี้มาต่อสู้ แต่ในหลายๆบทบาทตัวเองเป็นผู้กระทำต่อผู้อื่นเสียเอง)

ในหนังสือเรื่อง "การต่อสู่ครั้งสุดท้าย" หรือ The Last War ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นั้นก็ยัง กำหนดยุทธศาสตร์ไม่ถูกต้อง ใช้ไม่ได้ผล ที่ใช้ "ทฤษฏีดอกไม้หลายสี"(ข่าว) ต่างฝ่ายต่างถอยคนละสามก้าว ผู้ก่อความไม่สงบตาบอดสี คือไม่สนใจ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จะให้ใครถอย คนละก้าว ? เพราะเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่า ใครเป็นหัวหน้า ใครเป็นแกนนำของผู้ก่อความไม่สงบ ที่จริงแล้วไม่มีด้วยซ้ำ เป็นเหมือนองค์กรปลาดาว เป็นเครือข่าย ทุกคน มีศักดิ์และสิทธิ์ ใกล้เคียงกัน ผู้ก่อความไม่สงบ ก็คือพี่น้องชาวมุสลิม ลูกหลานพี่น้องชาวมุสลิม นั่นเอง เมื่อก่อการเสร็จ ก็เป็นพี่น้องมุสลิมทั่วไป เว้นแต่จำตัวได้ขณะกระทำความผิด ผู้ก่อความ่ไม่สงบบางคน ครอบครัว ยังไม่ทราบด้วยซ้ำ เพราะแค้นฝังหุ่น ที่ถูก เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เฉพาะ ตำรวจ ทหาร รวมถึง ข้าราชการ อื่นๆ ด้วย กระทำต่อ ปฏิบัติต่อพี่น้องชาวมุสลิม อย่างไม่เป็นธรรม มาเป็นขั่วอายุคน แต่เวลาระบายความแค้น เวลาก่อความไม่สงบเลือกกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐได้ก็เลือก ถ้าเลือกไม่ได้ก็ ขอให้เป็นคนไทยพุทธเท่านั้น

เพราะ เป็นความยินดี เห็นดีเห็นงามด้วยของพี่น้องมุสลิมในสังคมชาวมุสลิมกันเอง ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาเนินนาน กล่าวคือชาวบ้านนั่นแหละ ทำกันเอง ก่อการเสร็จ ก็กลับเป็นพลเมือง เหมือนเดิม เหมือนไม่รู้ไม่เห็น สบโอกาสก็ทำอีก เจ้าหน้าที่รัฐจึงปราบไม่ได้ เพราะ ทำการข่าวไม่ได้ผล พี่น้องมุสลิมไม่เป็นสายส่งข่าวให้ เรียกว่า ไม่ไว้วางใจไม่เอาด้วย หวาดกลัว ลนลาน เมื่อพบเจอเจ้าหน้าที่รัฐ กลัวจนระแวงว่า เจ้าหน้าที่รัฐเช้ามาในพื้นที่จะมาทำอะไรพี่น้องเค้าอีก

เพราะ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐเอารัดเอาเปรียบ อุ้ม ฆ่า ทรมานสารพัดวิธี ตั้งแต่ใช้ตะเกียบดีดไข่ ซ้อม (ตัวอย่างข่าว) ให้รับสารภาพ ยัดคดี ยัดข้อกล่าวหา จับเป็นแพะ โดยไม่ให้ความเป็นธรรม ไร้ความปราณีด้วย และทำติดต่อกันมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า สามสิบ ปี

ฟางเส้นสุดท้าย ถูกใส่ไว้บนหลังพี่น้องชาวมุสลิมจนเกิดเหตุไม่สงบเรื่อยมานี้ เมื่อสมัย อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ตอนใช้นโยบายปราบปรามยาสิพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่า(ข่าว) อุ้ม ตัดตอนพี่น้องมุสลิม ไปมากมาย ความอดทน อดกลั้นก็ขาด มลายหายไป เหลือไว้แต่ความชิงชัง เครียดแค้น เป็นลัทธิเอาอย่าง บินลาเดน กระทำต่อ สหรัฐอเมริกา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น