เป็นที่น่าเสียดาย ที่ประเทศไทยมีความเพียบพร้อมทุกอย่าง ทุกด้าน ยกเว้น ประสิทธิภาพของคน หรือเรียกง่ายๆ ว่า คนไม่เก่ง โดยเฉพาะ คนของรัฐ รวมทั้งนักการเมือง และบ้านเมืองกำลังเดินมุ่งหน้าไปสู่ความวิบัติ ด้วยอัตราเร่ง
ทำไมถึงพูดอย่างนี้ ... ก็เพราะว่า หากเรานึกตรึกตรองดู ในสถานะการณ์ที่บีบคั้น หรือ ฉุกเฉิน อย่างกรณี การประท้วง โดยม๊อบต่างๆ เป็นตัวอย่าง นักการเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทำได้อยู่สองแนวทาง กล่าวคือ ยืนตรึงกำลังเฉยๆ หรือพูดได้ว่า ยืนเฉยๆ กับ กระทำการรุนแรงไปเลย นั่นคือ ปราบปราม ใช้กำลัง ใช้อาวุธ เลือดตกยางออก มีการสูญเสีย เกิดขึ้น ซึ่งถนัดด้วยนะทั้งสองแนวทางดังกล่าว
แต่แนวทางที่สร้างสรรค์ ที่ใช้องค์ความรู้ทั้ง ศิลปะ ต่างๆ ไม่มี หรือมีก็น้อยมาก ที่จะทำให้เหตุการณ์ยุติโดยสงบ เรียบร้อย ที่ทุกคนรู้สึกถึง คุณค่าของอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วย
การเมืองไทยคงแก้ไขได้ยาก หรือพูดได้เลยว่า แก้ไขไม่ได้เลย หาก ยังคงยึดรูปแบบการเมืองเดิมๆ คนเดิมๆ วิธีคิดเดิมๆ วิธีการเดิมๆ ก็ได้เหมือนเดิม
ต้องมี "ระบบการคัดกรองนักการเมือง" ดังที่เคยกล่าวมาแล้ว ระบบประชาธิปไตยแบบตัวแทน(Representative Democracy) ไม่สอดคล้องกลับสภาวะบนโลกที่แบนราบลง อีกต่อไป เพราะ ประชาชน สามารถ เข้าถึง จัดการได้เอง ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ เทคโนโลยีที่มีพร้อมมูล โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวแทนจัดการ หรือทำแทนให้
วันนี้ และวันต่อๆไป ถือเป็นการสูญเสียของชาติและประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ที่ กลุ่มคนเสื้อแดง ผู้ประท้วง ไปปิดล้อมสถานที่ โรงแรมที่จัดประชุม อาเซียนบวก 6 และ โรงแรมที่พักของผู้นำปรเทศต่างๆ ต้องล่มกลางคัน จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินร้ายแรง ในจังหวัดชลบุรีเครดิตของประเทศที่เคยสงบ สุข เมืองแห่งรอยยิ้ม ถูกทำลายลงด้วยคนเพียงน้อยนิด ครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น